• +66 46496845
  • info@womenpeacemakerprogram.org
คาร์โบไนไตรดิ้ง (carbonitriding) คืออะไร กระบวนการเป็นอย่างไร

คาร์โบไนไตรดิ้ง (carbonitriding) คืออะไร กระบวนการเป็นอย่างไร

การชุบผิวแข็งด้วยกระบวนการคาร์โบไนไตรดิ้ง (carbonitriding) คือกระบวนการนำเหล็กกล้าที่มีคาร์บอนต่ำจะถูกนำมาเพิ่มคาร์บอนที่ผิว และจะมีการเพิ่มไนโตรเจนเสริมเข้าไปด้วยส่วนหนึ่ง โดยเหล็กกล้านั้นจะถูกให้ความร้อนภายในเตาแบบปิด ความร้อนประมาณ 860-900 องศาเซลเซียส มีแก๊ส LPG แก๊สพาหะ และแอมโมเนียจะถูกฉีดเข้าไปภายในเตาด้วย จากนั้นอะตอมคาร์บอน จาก LPG และไนโตรเจนจากแอมโมเนียจะเกิดการแพร่เข้าไปในผิวเหล็ก จากนั้นเหล็กจะถูกลดอุณหภูมิลงเหลือ 860 องศาเซลเซียส เสร็จแล้วจะมีการนำเหล็กไปชุบลงในบ่อน้ำมันเพื่อทำให้เหล็กเกิดการเย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว และเกิดเป็นเหล็กที่มีโครงสร้างแข็งแรง การเพิ่มไนโตรเจนเข้าไปในเหล็ก ส่งผลให้เหล็กกล้ามีความสามารถในการชุบแข็งเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สามารถนำเหล็กกล้าที่มีคาร์บอนต่ำชุบแข็งลงในบ่อน้ำมันได้ แทนที่จะชุบแข็งลงในน้ำเย็นซึ่งเร็วกว่า นอกจากนั้นการชุบแข็งลงในบ่อน้ำมันยังส่งผลให้การเสียรูปของชิ้นงานอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ คาร์โบไนไตรดิ้ง (carbonitriding) นอกจากทำให้ได้เหล็กที่มีความแข็งแรง ทนทานแล้ว เหล็กยังสามารถทนต่อการสึกหรอได้อีกด้วย รวมถึงเกิดข้อดีในส่วนของการเพิ่มความต้านทานต่อการอ่อนตัว ทนต่อแรงกระแทก จริงๆ แล้วกระบวนการคาร์โบไนไตรดิ้ง (carbonitriding) คล้ายกันกับกระบวนการคาร์บูไรซิ่ง แต่แทนที่ชิ้นงานนั้นจะถูกซึมซับด้วยคาร์บอนเพียงอย่างเดียวแต่ยังซึมซับไนโตรเจนด้วย หากจะกล่าวอีกแบบหนึ่ง คาร์โบไนไตรดิ้ง (carbonitriding) คือ การชุบผิวแข็งโดยการแพร่ของคาร์บอน หรือการแพร่ของคาร์บอนและไนโตรเจนลงในผิวของเหล็ก ชิ้นงานที่นำมาชุบจะเกิดเป็นผิวแข็งขึ้นมา ชิ้นงานนั้นๆ สามารถทนต่อการสึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการคาร์โบไนไตรดิ้ง (carbonitriding) สามารถเลือกผิวแข็งได้ตั้งแต่ 0.2-2.0 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับเหล็กที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบต่ำหรือเหล็กที่มีอัลลอยด์ต่ำ ซึ่งต้องการเพิ่มความแข็งที่ผิว ลดการสึกหรอที่นำไปใช้งาน ทำให้ได้เหล็กที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น หากท่านต้องการชุบผิวแข็งด้วย คาร์โบไนไตรดิ้ง (carbonitriding) ปัจจุบันมีบริษัทที่ให้บริการมากมาย […]