• +66 46496845
  • info@womenpeacemakerprogram.org
Lifestyle
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ บัญชีเงินฝาก

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ บัญชีเงินฝาก

ว่ากันด้วยเรื่องของการออมเงินของทุกๆ ท่านนั้น ก็ย่อมที่จะมีแนวทางที่แตกต่างกันออกไปตามสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการออมทรัพย์ก็ดี การลงทุนก็ดี ซึ่งในบทความนี้จะพาทุกๆ ท่านไป “ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ บัญชีเงินฝาก” กันสักหน่อยครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าครับ

บัญชีเงินฝากคืออะไร?

บัญชีเงินฝาก (Deposit) คือ ผู้ฝากเงินกับธนาคารเข้าใจรายละเอียดและเงื่อนไขการฝากเงินมากน้อยแตกต่างกันไป และอาจมีบางส่วนเชื่อมั่นว่าเมื่อฝากเงินก็ต้องได้รับดอกเบี้ยตามที่โฆษณาเป็นผลตอบแทนอย่างแน่นอน แต่ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ด้านเงินฝากมีหลากหลายรูปแบบ และบางรูปแบบมีเงื่อนไขที่ค่อนข้างซับซ้อน เช่น ถ้าถอนก่อนกำหนดจะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่สถาบันการเงินประกาศ หรือถ้าถอนเงินมากกว่าจำนวนครั้งที่กำหนดใน 1 เดือนจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการถอน เราจึงควรศึกษาเงื่อนไขต่างๆ อย่างรอบคอบเสมอครับ

ประเภทของบัญชีเงินฝาก

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์

        บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ จะเป็นบัญชีที่ธนาคารพาณิชย์ ทำออกมาเพื่อให้ลูกค้ารายย่อย โดยใช้จะเน้นความสะดวกสบายในการฝากและถอนเงิน โดยจะมีไม่มีการกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการฝากและถอน หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์นั้นจากดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงินด้วย ซึ่งธนาคารพาณิชย์จะจ่ายเงินให้ผู้ฝากปีล่ะ 2 ครั้ง โดยจะคำนวณเป็นรายวัน แต่อัตราดอกเบี้ยจะค่อนข้างน้อยเพราะว่าไม่มีการกำหนดเวลาในการฝาก จะถอนเมื่อไรก็ได้ ธนาคารจึงไม่สามารถนำเงินไปต่อยอดได้มาก และคนส่วนใหญ่จะไม่นำเงินจำนวนมากมาฝากในบัญชีประเภทนี้

 บัญชีเงินฝากประจำ

         เป็นบัญชีเงินฝากที่มีการกำหนดระยะเวลาและจำนวนเงินขั้นต่ำในการฝาก โดยธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์เพราะว่าการฝากเงินใน บัญชีเงินฝากประจำจะมีระยะเวลาในการฝากที่นานกว่าบัญชีเงินฝากแบบออมทรัพย์ ธนาคารจึงสามารถนำเงินไปต่อยอดเพิ่มได้เช่น การนำเงินไปปล่อยกู้ นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เป็นต้น บัญชีเงินฝากประจำจึงเหมาะกับคนที่มีเงินสดไม่จำเป็นต้องใช้และต้องการให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และรับความเสี่ยงได้น้อย

บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน หรือบัญชีเงินฝากเดินสะพัด

         เป็นบัญชีที่มีไว้เพื่อความสะดวกสบายในการทำธุรกิจ โดยธนาคารเปิดบัญชีนี้มาเพื่อลูกค้าระดับกลางหรือระดับสูงที่มีเครดิตดี เพราะบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน สามารถเบิกเกินบัญชีได้ซึ่งธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยรายวันที่เบิกเกินบัญชี ซึ่งการใช้จ่ายเงินในบัญชีกระแสรายวันจะใช้ในรูปแบบการเซ็นเช็ค และผู้รับเช็คจะนำไปขึ้นเงินกับธนาคาร และบัญชีเงินฝากกระแสรายวันจะไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยให้ผู้ฝากเพราะว่าลูกค้าจะได้รับความสะดวกสบายใจการใช้จ่ายเงินเป็นค่าตอบแทนแล้ว

แนะนำ 2 บัญชีเงินฝากของธนาคารที่น่าสนใจ

1. ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) บัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี ออมเงินสบายใจ ไม่เสียภาษี

ระยะเวลาฝาก 24, 36 เดือน  ดอกเบี้ย : 1.75% (24เดือน), 1.90% (36เดือน)

เงื่อนไขการฝาก

  • เปิดบัญชีขั้นต่ำ: 1,000 บาท
  • จำนวนเงินฝากต่อครั้ง: 1,000 – 25,000 บาท (24 เดือน), 1,000 – 16,500 บาท (36 เดือน),
  • ยอดเงินฝากรวมเมื่อถึงกำหนดต้องไม่เกิน 600,000 บาท
  • ฝากไม่ถึง 3 เดือน: ถอนได้แต่ไม่ได้รับดอกเบี้ย
  • ฝากเกิน 3 เดือนแต่ไม่ครบกำหนด: ถอนได้แต่ได้ดอกเบี้ยเท่ากับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป- ฝากล่าช้าได้ไม่เกิน 2 งวด โดยฝากต่อจนครบจำนวนงวด โดยธนาคารจะเลื่อนระยะเวลาการฝากเงินออกไปตาม
  • จำนวนเดือนที่ขาดฝาก ไม่เกิน 2 เดือน ลูกค้ายังคงได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และสิทธิ์ยกเว้นภาษีรายได้ดอกเบี้ย

2. ธนาคารยูโอบี บัญชียูโอบี ปลอดภาษี ทวีสิน

ระยะเวลาฝาก 24, 36 เดือน / ดอกเบี้ย :  1.50-2.00%(24 เดือน ) , 1.50%(36 เดือน)     

เงื่อนไขการฝาก

  • ระยะเวลาฝาก 24, 36, 48, 60 เดือน ยอดเงินฝากรวมกันไม่เกิน 600,000 บาท
  • อายุขั้นต่ำในการขอเปิดบัญชี 15 ปีบริบูรณ์
  • เมื่อครบกำหนดการฝาก ถ้าผู้ฝากมิได้แจ้งปิดบัญชี ธนาคารจะรับฝากต่ออัตโนมัติ ด้วยระยะเวลาฝาก 12เดือน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน
  • ขาดฝากได้ไม่เกิน 2 งวด ตลอดระยะเวลาการฝาก
  • กรณีขาดฝากไม่เกิน 2 งวด ผู้ฝากต้องฝากชดเชยให้ครบจำนวนงวดที่ขาดฝาก
  • กรณีระยะการฝากไม่ถึง 3 เดือนนับจากวันเปิดบัญชีถึงวันปิดบัญชี จะไม่ได้รับดอกเบี้ย
  • กรณีระยะการฝากตั้งแต่ 3 เดือน แต่ไม่ถึงระยะเวลา 24, 36, 48 และ 60 เดือน จะคิดดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ตามประกาศธนาคาร ณ ขณะนั้น พร้อมเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ บัญชีเงินฝาก” ที่เราได้รวบรวมมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้น คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยกันนะครับ