5 เคล็ดลับดูแลเครื่องฟอกอากาศของคุณให้เหมือนใหม่

สภาพอากาศในปัจจุบัน พบปัญหากลิ่น ควันต่างๆ มากมาย รวมไปถึงฝุ่นที่ล้วนแล้วแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนเราทั้งสิ้น ยิ่งในช่วงที่ไม่มีลมพัดและคนในเมืองกรุง ก็จะยิ่งเสี่ยงต่อสภาพอากาศแย่ๆ แบบนี้ป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ครับ บทความนี้จะขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “5 เคล็ดลับดูแลเครื่องฟอกอากาศของคุณให้เหมือนใหม่” ที่เราเชื่อว่าหลายๆ ท่านไม่รู้วิธีดูแลที่ถูกต้อจนต้องเสียตังค์ซื้อใหม่กันอย่างแน่นอน จะต้องอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันดีกว่า!!

หลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) คือเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่ช่วยฟอกอากาศให้สะอาดบริสุทธิ์มากขึ้นด้วยการดักจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นควัน เชื้อโรค เชื้อรวมไปถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างอื่น

โดยหลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ คือ การดูดอากาศเข้าไป จากนั้นก็ดักจับสิ่งแปลกปลอมด้วยแผ่นกรองหรือฆ่าเชื้อโรคเชื้อหรือกำจัดกลิ่นด้วยระบบอื่นๆ จากนั้นก็จะปล่อยอากาศที่บริสุทธิ์มากขึ้นออกมา นี่เป็นหลักการทำงานแบบคร่าวๆ ซึ่งสามารถอธิบายเป็นส่วนๆ ได้ดังนี้

●แผ่นกรอง (Air Filter) มีหน้าที่กรองสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง ไรฝุ่น เชื้อโรค เชื้อรา สารกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ เป็นต้น ตัวแผ่นกรองนี้มีหลายลักษณะ อาจเป็นเส้นใย กระดาษหรือตาข่ายก็ได้ทั้งนั้น แต่ว่าแผ่นกรองที่นิยมใช้กันมากที่สุดในตอนนี้คือแบบ High Efficiency Particulate (HEPA) เป็นแผ่นกรองที่ผลิตจากใยแก้วนำแสง มีประสิทธิภาพดีมากในการดับจับฝุ่น แม้ว่าจะมีขนาดที่เล็กกว่า 0.3 ไมครอนก็จับได้เช่นเดียวกัน แถมอายุการใช้งานยาวนานถึง 3-5 ปี

●ระบบกรองอากาศ (Electrostatic Precipitator) เป็นระบบที่ทำงานโดยใช้หลักการไฟฟ้าสถิต โดยจะปล่อยประจุลบออกมาเพื่อจับระจุบวกให้อยู่รวมกันเป็นกลุ่มจนเมื่อมีน้ำหนักมากพอก็จะตกลงพื้นโดยไม่ฟุ้งกระจายให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย

●ระบบกำจัดกลิ่น (Gas-Phase Air Filters) เป็นระบบที่ใช้ถ่านกัมมันต์(Activated Carbon) ในการดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์รวมไปถึงกลิ่นสารเคมีหรือก๊าซพิษอื่นๆด้วย

●ระบบกำจัดกลิ่นโดยใช้แสงยูวี (Ozone generator) เป็นระบบที่สร้างโอโซนเพื่อนำมาใช้กำจัดเชื้อโรคหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆที่ยังปะปนอยู่ในอากาศ

●UV Light เป็นระบบกำจัดเชื้อโรคในอากาศเช่นเดียวกัน แต่ว่าจะนำรังสีอัลตราไวโอเล็ตมาใช้ฆ่าเชื้อโรคแทน

                จริงๆแล้วเครื่องฟอกอากาศไม่ได้จำเป็นกับทุกคนเสมอไป แต่สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง อยู่ติดถนนหรือเส้นทางขนส่งที่รถราเยอะๆ อยู่ใกล้แหล่งกำจัดขยะหรือโรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ เครื่องฟอกอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนซื้อมาใช้ เพราะมันจะช่วยฟอกอากาศให้กลับมาสะอาดบริสุทธิ์ขึ้นได้ ช่วยดักจับฝุ่นละออง เชื้อโรคและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี

5 เคล็ดลับดูแลเครื่องฟอกอากาศ

●ทำความสะอาดแผ่นกรองและแผ่นคาร์บอนอย่างสม่ำเสมอ เพราะการทำความสะอาดแผ่นกรอง โดยใช้วิธีการดูดฝุ่นหรือใช้แปรงปัดที่บริเวณแผ่นกรองได้เลย ทั้งนี้เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นก็จะมีแผ่นคาร์บอนที่ช่วยในการกรองกลิ่นก็ควรนำมาทำความสะอาดด้วยเช่นกัน โดยใช้วิธีการทำความสะอาดเช่นเดียวกับแผ่นกรอง

●เปลี่ยนแผ่นกรองและแผ่นคาร์บอน เพราะถึงแม้ว่าจะมีการทำความสะอาดแผ่นกรองและแผ่นคาร์บอนอย่างสม่ำเสมอ แต่ใช่ว่าจะสามารถใช้งานได้ตลอดไป เพราะไม่ว่าเราจะทำความสะอาดมากขนาดไหนก็อาจจะยังมีกลิ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆ หลงเหลืออยู่  โดยแผ่นกรองและแผ่นคาร์บอนนั้นจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี นั้นเองครับ

●ทำความสะอาดตัวเครื่อง เมื่อทำความสะอาดภายในตัวเครื่องอย่างแผ่นกรองและแผ่นคาร์บอน ก็อย่าลืมที่จะทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่องกันด้วย โดยใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดทำความสะอาดจะช่วยให้เครื่องสะอาดและขจัดฝุ่นที่เกาะตามตะแกรงพัดลมของเครื่องได้

●หมั่นตรวจสอบการชำรุดเสียหาย ปิดท้ายด้วยการตรวจสอบการทำงานของเครื่องฟอกอากาศว่ามีความผิดปกติหรือไม่ขณะใช้งาน

●เมื่อไม่ใช้งานควรหาผ้ามาคลุมตัวเครื่อง ดั่งเช่นเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป เมื่อการเวลาผ่านไปหากไม่ได้ใช้งาน ก็ควรที่จะหาผ้ามาคลุมเพื่อป้องกันคราบสกปรกหรือฝุ่นเกาะนั้นเองครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลที่เราได้นำมาฝากในข้างต้นนี้ เราหวังว่าทุกๆ ท่านจะสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศของท่านกันได้นะครับ